การวัดและสกัดคีย์: Bob รับโฟตอนและวัดสถานะเพื่ออ่านบิต ในขั้นนี้ทั้งสองจะสื่อสารบอกฐานการวัดที่ใช้ (โดยไม่บอกค่าที่วัดได้) เพื่อคัดทิ้งบิตที่ใช้ฐานต่างกัน เหลือเพียงบิตที่แนวทางตรงกันให้เป็นกุญแจเข้ารหัส
การตรวจจับการดักฟัง: หากมีคนดักฟัง (Eve) เดินทางเข้ามาวัดโฟตอนระหว่างส่ง กฎควอนตัมจะทำให้สถานะของโฟตอนเปลี่ยนไปโดยไม่สามารถจำลองได้ (principle of no-cloning) ผลคือ Bob จะวัดได้ค่าผิดพลาดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับที่ Alice ส่ง ทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้ทันทีว่ามีคนดักข้อมูลอยู่ (เหมือนกับว่าหากมีคนเปิดอ่านข้อมูลในซองที่มีระบบแจ้งเตือน ซองนั้นจะเปลี่ยนสีบอกเป็นสัญญาณเตือน
ด้วยกระบวนการเหล่านี้ Alice และ Bob จะได้กุญแจเข้ารหัสร่วมกันที่ปลอดภัย แม้จะส่งผ่านช่องทางที่อาจโดนดักฟังก็ไม่เป็นภัยคุกคาม เพราะทุกการดักฟังจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เจาะจงเกี่ยวกับ Yay Hkar Inn โดยตรงนั้นมีจำกัด เนื่องจากทะเลสาบนี้มิได้เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณหรือแหล่งโบราณคดีเด่น แต่ทะเลสาบและพื้นที่รอบข้างมีบทบาทในชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรหรือประมงพื้นบ้าน ในสมัยอาณาจักรโบราณ บริเวณนี้อยู่ไม่ห่างจากเมืองสำคัญเช่น สะกายและอมรปุระ แต่ไม่มีบันทึกว่ามีกษัตริย์ใดสร้างเขื่อนหรือโครงการชลประทานขนาดใหญ่ที่ทะเลสาบแห่งนี้ ดังนั้น Yay Hkar Inn จึงน่าจะเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่เกิดจากลักษณะภูมิประเทศ (เช่น แอ่งสะสมตะกอนหรือร่องน้ำเก่าของแม่น้ำ) มากกว่าที่จะเกิดจากการขุดสร้างของมนุษย์
ลักษณะภูมิประเทศและที่ตั้ง
Yay Hkar Inn ตั้งอยู่บนที่ราบภาคกลางของเมียนมา ในเขตภูมิภาคสะกาย (Sagaing Region) ทางตอนใต้ของภูมิภาคและใกล้กับพรมแดนเขตมัณฑะเลย์ ทะเลสาบนี้อยู่ห่างจากเมืองสะกาย (เมืองหลักของภูมิภาค) ไปทางทิศเหนือประมาณ 20–30 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองตะดาอู (Tada-U) ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร
ลักษณะภูมิประเทศของบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มค่อนข้างแบน โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มาก พื้นที่โดยรอบเป็นทุ่งนาและหมู่บ้านชนบทกระจายอยู่ทั่วไป Yay Hkar Inn มีขนาดใหญ่มาก – แหล่งข้อมูลหนึ่งระบุว่าพื้นที่ผิวน้ำของทะเลสาบใกล้เคียงกับครึ่งหนึ่งของพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์เลยทีเดียว
wikimapia.org ลวดลายเหล่านี้อาจเกิดจากร่องรอยการไถหรือคันนาเก่า รวมถึงการแตกแตกระแหงของดินเมื่อตะกอนแห้ง การที่พื้นท้องน้ำเผยให้เห็นลวดลายดังกล่าวเป็นสิ่งสะท้อนว่า Yay Hkar Inn มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตามฤดูกาลอย่างชัดเจน และพื้นที่บางส่วนของทะเลสาบถูกใช้งานเป็นพื้นที่เกษตรเมื่อเข้าสู่หน้าแล้ง
กิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถทำได้ที่ Yay Hkar Inn คือ การล่องเรือชมทะเลสาบ นักท่องเที่ยวสามารถว่าจ้างเรือหาปลาของชาวบ้านในหมู่บ้านริมทะเลสาบเพื่อนั่งชมวิวและสัมผัสความกว้างใหญ่ของทะเลสาบได้
nationthailand.com สำหรับบริเวณเมียนมาเอง เมืองมัณฑะเลย์ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้คนต่างตื่นตระหนกกับแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ชนบทอย่างรอบๆ Yay Hkar Inn ก็มีรายงานว่ารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว แม้ความเสียหายจะไม่เป็นข่าวใหญ่เท่าในเขตเมือง แต่ก็สร้างความกังวลแก่ชาวบ้านเกี่ยวกับความมั่นคงของบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างพื้นฐานในอนาคต
โดยสรุป ความเชื่อมโยงของ Yay Hkar Inn กับรอยเลื่อนสะกายคือ ที่ตั้งของทะเลสาบอยู่ในเขตเสี่ยงภัยแผ่นดินไหว ดังนั้นในการพัฒนาใดๆ ในพื้นที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือโครงสร้างพื้นฐานชลประทาน จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านภัยธรณีวิทยาอย่างเคร่งครัด ชุมชนท้องถิ่นควรได้รับการฝึกซ้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหว และมีระบบแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นักวิชาการธรณีฯ บางส่วนตั้งข้อสันนิษฐานว่าการที่มีทะเลสาบหรือแอ่งน้ำหลายแห่งตามแนวรอยเลื่อนสะกาย (เช่น Taung Tha Man, Paleik Inn, Yay Myat Gyi Inn เป็นต้น) อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อาจเชื่อมโยงกับโครงสร้างธรณีวิทยาใต้ดิน เช่น การทรุดตัวของดินตามรอยเลื่อนซึ่งทำให้เกิดแอ่งสะสมตัวของน้ำตามแนว (ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Sag Pond) แม้จะยังไม่มีการศึกษาลึกซึ้งในกรณีของ Yay Hkar Inn โดยตรง แต่สมมติฐานนี้ก็น่าสนใจและควรค่าแก่การวิจัยต่อไป เพราะจะช่วยให้เข้าใจการกำเนิดของทะเลสาบและประเมินความเสี่ยงทางธรรมชาติได้ดีขึ้น
ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ความสำคัญด้านการอนุรักษ์: Yay Hkar Inn ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ควรได้รับการอนุรักษ์ในเขตภาคกลางของเมียนมา จากโครงการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพที่ได้รับการสนับสนุนโดยสหภาพยุโรปและหน่วยงานท้องถิ่น มีข้อเสนอว่าอย่างน้อยพื้นที่ชุ่มน้ำจำนวน 10 แห่ง (รวมถึง Yay Myat Gyi Inn) ควรมีมาตรการคุ้มครองและจัดการอย่างยั่งยืน เนื่องจากมีความสำคัญทั้งต่อการอพยพของนกน้ำและต่อวิถีชีวิตชุมชนcepf.net ผลการศึกษาดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อรัฐบาลระดับภูมิภาคเพื่อพิจารณาดำเนินการในอนาคต
การเรียกชื่อและการรับรู้ของคนทั่วไป: ดังที่ได้กล่าวไป ชื่อของ Yay Hkar Inn อาจสร้างความสับสนได้เนื่องจากการสะกดที่ต่างกัน (“Yay Myat Gyi” กับ “Yay Hkar Inn”) อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและนักวิชาการมักใช้ชื่อ Yay Myat Gyi Inn ในการอ้างอิงถึงทะเลสาบแห่งนี้ เนื่องจากถือเป็นชื่อที่ถูกต้องตามภาษาและการออกเสียงพม่า ส่วนชื่อ Yay Hkar Inn นั้นเกิดจากการสะกดผิดพลาดบนแผนที่และสื่อบางแหล่ง การเข้าใจเรื่องชื่อที่ถูกต้องมีความสำคัญในการค้นคว้าข้อมูลและสื่อสารเกี่ยวกับทะเลสาบนี้ เช่น หากค้นหาผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์หรือรายงานทางวิชาการ ควรใช้ชื่อ Yay Myat Gyi Inn จึงจะพบข้อมูลที่ตรงที่สุด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่: พื้นที่รอบ Yay Hkar Inn แม้จะสงบเงียบแต่ก็เคยปรากฏในข่าวสารอยู่บ้าง เช่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เกิดเหตุเครื่องบินฝึกของกองทัพเมียนมาตกใกล้กับทะเลสาบ (บริเวณหมู่บ้านโอง์ตอว์ทางด้านตะวันตกของทะเลสาบ) โดยเครื่องบินตกลงในที่นาไม่ไกลจากชายฝั่งด้านหนึ่งของ Yay Hkar Inn ส่งผลให้นักบินเสียชีวิตmyanmar-now.org เหตุการณ์นี้แม้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวทะเลสาบโดยตรง แต่ก็ทำให้ชื่อของ Yay Hkar Inn ปรากฏในรายงานข่าวระหว่างประเทศ และชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ชนบทแห่งนี้ยังคงมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ (เนื่องจากอยู่ในเส้นทางบินฝึกซ้อม)
ภาพรวมและแนวโน้มอนาคต: โดยภาพรวม Yay Hkar Inn เป็นทะเลสาบธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีบทบาทหลายมิติ ทั้งเป็นแหล่งทรัพยากรของชุมชน แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในอนาคต ความท้าทายคือการรักษาสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์กับการอนุรักษ์ เช่น การควบคุมมลพิษจากภาคการเกษตร การจัดโซนนิ่งพื้นที่จับปลา และการเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ในอนาคต หากมีการจัดการอย่างเป็นระบบและการมีส่วนร่วมของชุมชน Yay Hkar Inn อาจได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์อย่างเป็นทางการ หรืออาจถูกรวมเข้าในเครือข่ายเขตพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติหรือนานาชาติ เช่น การขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ ทั้งนี้เพื่อประกันว่าทะเลสาบแห่งนี้จะคงความอุดมสมบูรณ์และคุณค่าของมันไว้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์และชื่นชมต่อไป