ขั้นตอนที่ 1 ก่อนใช้บริการ SRAN IN Block เว็บไซต์ทั่วไปได้ถูกออกแบบมาให้มีการติดต่อสื่อสารแบบ Client – Server กล่าวคือมีการติดต่อผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วเข้าเยี่ยมชมเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้โดยตรง เมื่อมีการจดทะเบียนชื่อโดเมนแนม และค่าไอพีแอดเดรสที่ได้จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Services Provider) ซึ่งเป็นการติดต่อสื่อสารเว็บไซต์ทั่วไปโดยผู้ใช้งานจะสามารถเรียกข้อมูลได้โดยตรงโดยที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าผู้ใช้งานดังกล่าวติดเชื้อหรือมีลักษณะถึงการโจมตีเว็บไซต์ เจาะระบบข้อมูล ซึ่งจะเห็นได้ว่าวิธีนี้ไม่ได้ช่วยในการป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น ต่อมาได้มีการคิดค้นวิธีการป้องกันโดยนำเอาอุปกรณ์ป้องกันหรือเรียกว่า Web Application Firewall ที่เป็นฮาร์ดแวร์ Appliance มาติดตั้งอยู่หน้าเว็บไซต์ซึ่งกรณีนี้จะทำให้ผู้ใช้งานต้องลงทุนในการติดตั้งและซื้ออุปกรณ์มาป้องกันภัยด้วยงบประมาณสูง เป็นเหตุผลให้เกิดบริการ SRAN IN Block ขึ้นมาเพื่อให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยและเข้าถึงข้อมูลรวดเร็ว อีกทั้งประหยัดงบประมาณไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อใช้บริการ SRAN IN Block ผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องทำการเปลี่ยนค่า DNS ในเครื่องเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อชี้ค่าไปที่ SRAN IN Block Center ซึ่งจัดทำบนระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เมื่อมีการอัพเดทค่า DNS ใหม่ ผู้ใช้งานทั่วไปเมื่อเปิดหน้าเว็บเพจที่ใช้บริการ SRAN IN Block ก็จะเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปกติ แต่เพิ่มการป้องกันภัยและมีความรวดเร็วขึ้น “Fast and Secure”
ขั้นตอนที่ 3 ด้วยคุณสมบัติในการป้องกันการโจมตีระบบ (Web Application Firewall) , การอำพรางค่าไอพีแอดเดรสเพื่อวัตถุประสงค์โจมตีเว็บไซต์ ก็จะไม่สามารถทำได้โดยสะดวก ด้วยเทคโนโลยี SRAN IN Block จะทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อเว็บไซต์หน่วยงานของท่านได้ และมีการจัดเก็บค่า Log File เพื่อให้สอดคล้องกับกับกฎหมายในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อีกด้วย