สรุปหนังสือ The Hacker and the State

ในหนังสือ The Hacker and the State: Cyber Attacks and the New Normal of Geopolitics ผู้เขียน Ben Buchanan ได้สำรวจโลกของการโจมตีทางไซเบอร์ในระดับรัฐบาล เปิดโปงรายละเอียดลับๆ ล่ๆ ภายใน และถกเถียงเกี่ยวกับผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์สมัยใหม่

ประเด็นหลักที่ Buchanan กล่าวถึง

สงครามไซเบอร์แบบจริง การโจมตีทางไซเบอร์ระหว่างประเทศไม่ใช่สงคราม แต่เป็นรูปแบบใหม่ของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์


ตัวอย่างกรณีศึกษาจริง หนังสือเล่มนี้ยกตัวอย่างการโจมตีทางไซเบอร์ที่น่าตกใจจากหลายประเทศ รวมถึง จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา


เทคนิคการโจมตี เนื้อหานำเสนอเทคนิคการโจมตีที่หลากหลาย ตั้งแต่การวางสายเคเบิลใต้น้ำ การซ่อมแซมนิวเคลียร์ใต้ดิน ไปจนถึงการตัดไฟ การละเมิดข้อมูล การแทรกแซงการเลือกตั้ง และการขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์


ผลกระทบต่อโลก: Buchanan แสดงให้เห็นว่าการโจมตีทางไซเบอร์ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ ยุทธวิธีการสอดแนม และการบริหารประเทศอย่างไร


อนาคตของสงครามไซเบอร์ ผู้เขียนเสนอข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีรับมือกับภัยคุกคามใหม่นี้ ทั้งในระดับรัฐบาลและบุคคล

หนังสือ The Hacker and the State ผู้เขียน Ben Buchanan เริ่มต้นด้วยการอธิบายว่าสงครามไซเบอร์ระหว่างประเทศไม่ใช่สงครามแบบดั้งเดิม แต่เป็นการต่อสู้ที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและข้อมูลของชาติคู่แข่ง

Buchanan โต้แย้งว่าสงครามไซเบอร์มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการจากสงครามแบบดั้งเดิม ประการแรก สงครามไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีความขัดแย้งทางกายภาพ ประการที่สอง สงครามไซเบอร์สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายที่อยู่ห่างไกล ประการที่สาม สงครามไซเบอร์สามารถดำเนินการได้อย่างลับๆ โดยไม่เปิดเผยตัวตน

Buchanan อธิบายว่าสงครามไซเบอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก: การโจมตีทางยุทธศาสตร์และการโจมตีทางยุทธวิธี

การโจมตีทางยุทธศาสตร์มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภค และระบบการเงิน การโจมตีเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง

การโจมตีทางยุทธวิธีมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายเฉพาะ เช่น องค์กรธุรกิจ หรือบุคคลสำคัญ การโจมตีเหล่านี้สามารถใช้ในการสอดแนม แทรกแซงการเลือกตั้ง หรือทำลายชื่อเสียง

Buchanan ยกตัวอย่างการโจมตีทางไซเบอร์ที่สำคัญๆ หลายครั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสงครามไซเบอร์

ตัวอย่างเช่น เขาได้กล่าวถึงการโจมตี Stuxnet ซึ่งทำลายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่าน เขาได้กล่าวถึงการโจมตี NotPetya ซึ่งทำให้ธุรกิจและองค์กรหลายแห่งทั่วโลกหยุดชะงัก และเขาได้กล่าวถึงการโจมตี SolarWinds ซึ่งเจาะระบบของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจหลายแห่ง

Buchanan สรุปบทที่ 1 โดยกล่าวว่าสงครามไซเบอร์เป็นภัยคุกคามใหม่และร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ Buchanan เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญบางประการจากบทที่ 1:

  • สงครามไซเบอร์ไม่ใช่สงครามแบบดั้งเดิม แต่เป็นการต่อสู้ที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและข้อมูลของชาติคู่แข่ง
  • สงครามไซเบอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก: การโจมตีทางยุทธศาสตร์และการโจมตีทางยุทธวิธี
  • การโจมตีทางไซเบอร์สามารถก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง
  • รัฐบาลและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

หนังสือ The Hacker and the State ผู้เขียน Ben Buchanan สำรวจบทบาทของรัฐในการโจมตีทางไซเบอร์ แสดงให้เห็นว่ารัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อรวบรวมข่าวกรอง แทรกแซงการเลือกตั้ง และทำลายโครงสร้างพื้นฐานของศัตรู

Buchanan เริ่มต้นด้วยการอธิบายว่ารัฐต่างๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสงครามไซเบอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐต่างๆ กำลังลงทุนเงินและทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนาความสามารถทางไซเบอร์ของตน

Buchanan อธิบายว่ารัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ประการแรก รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อรวบรวมข่าวกรอง ตัวอย่างเช่น รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจของศัตรู เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนโยบาย แผนการ และเทคโนโลยี

ประการที่สอง รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง ตัวอย่างเช่น รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลเท็จ เพื่อบิดเบือนผลการเลือกตั้ง

ประการที่สาม รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานของศัตรู ตัวอย่างเช่น รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภค และระบบการเงินของศัตรู

Buchanan ยกตัวอย่างการโจมตีทางไซเบอร์ของรัฐหลายครั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของรัฐแฮ็กเกอร์

ตัวอย่างเช่น เขาได้กล่าวถึงการโจมตี Stuxnet ซึ่งทำลายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่าน เขาได้กล่าวถึงการโจมตี NotPetya ซึ่งทำให้ธุรกิจและองค์กรหลายแห่งทั่วโลกหยุดชะงัก และเขาได้กล่าวถึงการโจมตี SolarWinds ซึ่งเจาะระบบของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจหลายแห่ง

Buchanan สรุปบทที่ 2 โดยกล่าวว่ารัฐแฮ็กเกอร์เป็นภัยคุกคามใหม่และร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ Buchanan เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ของรัฐที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญบางประการจากบทที่ 2:

  • รัฐต่างๆ กำลังลงทุนเงินและทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนาความสามารถทางไซเบอร์ของตน
  • รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น รวบรวมข่าวกรอง แทรกแซงการเลือกตั้ง และทำลายโครงสร้างพื้นฐาน
  • การโจมตีทางไซเบอร์ของรัฐสามารถก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง
  • รัฐบาลและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ของรัฐที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

หนังสือ The Hacker and the State มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าใจบทบาทของรัฐในการโจมตีทางไซเบอร์ Buchanan นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการที่รัฐต่างๆ ใช้แฮกเกอร์เพื่อบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์

สรุปประเด็นสำคัญจากหนังสือเล่มนี้ เขาเน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญต่อไปนี้:

  • สงครามไซเบอร์กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
  • สงครามไซเบอร์มีแนวโน้มที่จะรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต
  • รัฐบาลและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามไซเบอร์
  • กฎหมายและจริยธรรมของสงครามไซเบอร์ยังไม่สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างเพียงพอ

Buchanan เสนอแนวทางปฏิบัติสำหรับอนาคต เขาเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทำสิ่งต่อไปนี้:

  • ลงทุนในการป้องกันทางไซเบอร์
  • ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
  • พัฒนากฎหมายและจริยธรรมของสงครามไซเบอร์
  • สงครามไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
  • รัฐบาลและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือ
  • จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคาม

สวัสดี

Nontawatt.s