“เหรียญดิจิทัล ที่อยากเห็น..”

ในยุคปัจจุบัน เราจะเห็นว่าความเหลื่อมล้ำของผู้คนในสังคมมีสูงขึ้น ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้เมื่อมูลค่าจากเงินตราหากมีจำนวนมากก็บ่งบอกได้ว่าคนนี้ร่ำรวย มีความมั่งคั่งหากมีน้อยก็ต้องพอมีพอกิน จนทำให้สังคมวัดกันที่ค่าของเงินตรา อันส่งผลพวงให้คนเกิดความอยากมีอยากได้ในทางวัตถุนิยมการมองถึงการร่ำรวยทางลัด การเอาเปรียบผู้คนเพื่อได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ อันเป็นปัญหาที่เริ่มสะสมขึ้นจนเรียกได้ว่าเป็นกับดักของคนชั้นกลาง บวกล่าง (Middle Income Trap)

และเป็นปัญหาที่นับวันยิ่งไร้ทางออก เป็นทุนที่มองเห็นเฉพาะประโยชน์ของพวกพ้อง ในทางธุรกิจบริษัทก็ต้องการหากำไรให้มากที่สุด กำไรทุกไตรมาส ในทุกๆปี ธุรกิจของบริษัทต้องโตขึ้น ต้องมีผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งในบางครั้งจะดูแล้วสวนทางกับความเป็นจริงที่ปรากฎ และไม่สมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย

ด้วยการแข่งขันเหล่านี้ล้วนสะสมความเคลียดและเกิดความกดดันที่ทำให้จิตของผู้คนในปัจจุบันนั้นเข้าสู่การเห็นแก่ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ทราบกันดี จริงอยู่นี้คือโลกการค้าเสรี เมื่อทุนต้องการแสวงหากำไรเกิน บางทีจนเกินจุดความพอดี. การผลิตที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ และไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้คน

เหล่านี้เป็นปัญหาวนไปมา จุดเบาะบางนี้เอง ทำให้เกิดการทุจริตทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคมโดยลืมมองย้อนคืนกลับสภาพความเป็นมนุษย์ ที่อยู่ด้วยความเกื้อกูลกันและกัน คนตัวใหญ่ปกป้องคนตัวเล็ก คนแข็งแรงดูแลคนอ่อนแอ คนร่ำรวยพอเหลือแล้วพึงช่วยเหลือคนที่ยังขาด ที่ขาดปัจจัย 4 อันเป็นพื้นฐานการดำรงชีพ ซึ่งหากการพลิกความคิดในครั้งนี้เกิดขึ้นได้จริง จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้โลกดิจิทัลนั้นได้ถูกสร้างเสมือนมูลค่าขึ้นจากเหรียญ Coin แต่ด้วยคนเห็นมูลค่าเพียงเหรียญ การนำมาเพื่อแสวงหาประโยชน์จากความโลภของคนได้เกิดขึ้น จะเห็นค่าของ Digital Cryptocurrency มาทำการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การเกิด ICOและการปรับสู่ตลาดทุนอย่างเต็มตัวตามที่เป็นข่าวที่เราได้รับรู้มา

หากพลิกความคิดใหม่ เหรียญ Coin ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่แปรผันในด้านมิติเดียว แต่เพิ่มการกระทำ ที่พิสูน์ได้จริงและเป็น Record แห่ง ความจริง ความดี และความงาม ได้นั้นโลกเราคงน่าอยู่ขึ้น

ในครั้งหนึ่ง ผมได้มีโอกาสเสนอ Platform E-commerce ที่อาศัยเหรียญ Coin ที่บรรจุคุณค่าของมนุษย์อันเกิดการเกื้อกูลกันและกันของคนมีและคนไม่มี อันเป็น Ecosystem ใหม่ที่ต้องอาศัยหลักปฏิจจสมุปบาท และ อิทัปปัจจยตา มาผสมผสานในเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นผ่าน เทคโนโลยีการยืนยันความถูกต้องโดยอาศัย Blockchain เป็นต้น

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นการมองไปยังอนาคตข้างหน้า อันที่โลกควรจจะเป็น และสร้างให้สังคมที่เป็นอยู่นั้นได้มีความน่าอยู่ขึ้น ให้คุณค่าของความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทำให้คนไม่มีทุน หรือทุนน้อยได้เข้าถึงปัจจัย 4 อันพึ่งพอมีได้. ผมได้กล่าวและขอแชร์แนวคิดนี้

เป็น Concept Platform ที่คนทุนน้อยก็เข้าถึงปัจจัย 4 อันพอยังชีพได้ จะกล่าวถึงเหรียญดิจิทัล ต้องเป็นเหรียญที่ไม่ได้มองแค่ทุน อันเกิดจากทุนนิยมที่เป็นอยู่ แต่มองการกระทำ ความจริง ความดี และความงามดังนี้

Platform นี้จะต้องเกิดการปรับสมดุลใหม่ ระหว่าง

1) เทคโนโลยีสมัยใหม่

2) เศรษฐกิจ และ

3) ความเป็นมนุษย์ ที่เกื้อกูลกันและกัน

ที่มองเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ใส่ใจในการกระทำ ความจริง ความดี และความงาม

Coin เหรียญดิจิทัลจากทุนปกติ ต้องบวกกับความดี ที่เกิดจากการกระทำ และพิสูจน์ได้จริง โดยนำเทคโนโลยี Big data และ AI มาช่วยคัดกรอง

นำ Digital Identity จากสิ่งของ คน และการกระทำมาตรวจ

คุณภาพสินค้าที่มีการตรวจสอบได้. (integrity) โดยมีการเอาใจเขาใส่ใจเรา ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค จากต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ (Supply Chain)

โดยทั้งหมดที่กล่าวนี้เป็น concept อันจะบรรจุเข้า Platform นี้ได้

จะเป็น New idea ที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น และเป็นผลงานที่จารึกไว้เพื่อเป็นรูปแบบใหม่ที่ลดความเหลื่อมล้ำจากสังคมในยุคปัจจุบันลงได้ไม่มากก็น้อย

หากไอเดียนี้กระจายไปคงมีประโยชน์ต่อสังคมได้ เราจะได้มี Platform E-comerce สำหรับทุนที่มาจากความดี ความงาม และความจริงจากความเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้น

Nontawatt Saraman

เขียนโดย นนทวัตต์ สาระมาน นายกสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ CIPAT

28/01/2564