Unified Namespace คืออะไร ?

Unified Namespace คือแนวคิดหรือสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการรวมข้อมูลทั้งหมดจากแหล่งต่างๆ ภายในองค์กรให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน (Namespace) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การเชื่อมต่อ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการประมวลผลเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบอุตสาหกรรมหรือโครงสร้างพื้นฐานที่มีการทำงานของระบบต่างๆ จำนวนมาก เช่น IIoT (Industrial Internet of Things) และระบบอัตโนมัติในโรงงาน

คุณสมบัติสำคัญของ Unified Namespace
การรวมข้อมูลจากหลายระบบ

UNS ทำหน้าที่เป็น “แหล่งข้อมูลเดียว” (Single Source of Truth) ที่รวมข้อมูลจากระบบต่างๆ เช่น ระบบ ERP, MES, SCADA, PLC, IoT devices และฐานข้อมูลทุกข้อมูลจะถูกเก็บหรือส่งผ่านในพื้นที่เดียวกัน ทำให้ลดความซับซ้อนในการเข้าถึงและใช้งานข้อมูล
การส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์

การใช้งาน UNS ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างแหล่งข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การตัดสินใจและการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
โปรโตคอลที่รองรับมาตรฐานเปิด

UNS มักใช้โปรโตคอลแบบ Publish/Subscribe เช่น MQTT หรือ OPC UA ซึ่งทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับระบบที่มีอยู่ได้ง่าย
การสนับสนุนการวิเคราะห์และแสดงผล

UNS สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Data Visualization, AI/ML, และ BI Tools ได้โดยตรง
ประโยชน์ของ Unified Namespace
1) ลดความซับซ้อน: ไม่ต้องสร้างการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด (Point-to-Point) ระหว่างระบบต่างๆ
2) ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน: ข้อมูลทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้จากจุดเดียว ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างแผนกหรือระบบง่ายขึ้น
3) เพิ่มความยืดหยุ่น: รองรับการขยายระบบใหม่โดยไม่กระทบกับระบบเดิม
4) สนับสนุน Digital Transformation: ช่วยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบอัตโนมัติและการบริหารข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

การทำงานของ Unified Namespace (UNS)

Unified Namespace ทำงานโดยการสร้าง “ศูนย์กลางข้อมูล” ที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากอุปกรณ์ ระบบ และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ภายในองค์กรไว้ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งสามารถเข้าถึงและประมวลผลได้แบบเรียลไทม์ โดยอาศัยการออกแบบตามหลักการ Publish/Subscribe ที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น

ตัวอย่าง

  1. โรงงานอุตสาหกรรม
    • เชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักร ระบบ SCADA, MES, และ ERP ไว้ในพื้นที่เดียวเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและลด Downtime
  2. Smart Building
    • รวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ระบบปรับอากาศ แสงสว่าง และระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล
    • ใช้ UNS ในการเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อสร้าง Dashboard วิเคราะห์ผลการดำเนินงาน (KPIs)

ขอบคุณ

Nontawatt.s